✨ Prachuap Luxe Voyage : จากขุนเขาสู่ชายหาด ใช้ชีวิตช้าๆ ✨
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ตอนนี้มี เที่ยวบินตรง เชียงใหม่–หัวหิน แล้วนะครับ! ✈️
บินกับ AirAsia ใช้เวลาเพียงชั่วโมงนิด ๆ ก็ออกจากอ้อมกอดขุนเขามากอดทะเลได้สบาย ๆ แถมบนเครื่องยังมีอาหารให้เลือก ทั้งเมนูร้อนแบบไทย ๆ และสแน็กเบา ๆ ให้อิ่มพอดีระหว่างทาง
???? Day 1 : เริ่มต้นที่หัวหิน
ลงจากเครื่องปุ๊บ เราไม่รอช้า มุ่งตรงไปฝากท้องที่ ร้านบ้านโกซีฟู้ด ร้านอาหารทะเลชื่อดังริมทะเลหัวหิน สดจริง อร่อยจริง
เมนูแนะนำห้ามพลาด : แกงส้มพริกนก ???? เผ็ด เปรี้ยว หอมถึงเครื่องแบบภาคกลางแท้ ๆ ซีฟู้ดสดแน่นเต็มคำ ใครได้ลองต้องยกนิ้วให้
จากนั้นเราไปชิลต่อที่ Pineapple Surf Club คาเฟ่เท่ ๆ ริม หาดเขาตะเกียบ ที่นี่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่ามีกิจกรรมเซิร์ฟด้วย ????♂️ โดยเฉพาะช่วง ต.ค.–ธ.ค. คลื่นกำลังดี เหมาะสำหรับคนอยากลองโต้คลื่น คาเฟ่มีทั้งเครื่องดื่มสดชื่น กาแฟดี ๆ ไปจนถึงค็อกเทลเบา ๆ พร้อมอาหารแนว All-day dining ให้นั่งชิลยาว ๆ และ อย่าลืมถ่ายรูปกับ น้องม้า ???? สัญลักษณ์หัวหิน ที่เดินอยู่บนหาด เป็นโมเมนต์ที่ไม่ควรพลาด
ช่วงบ่ายเราเข้าที่พัก Aleenta Hua Hin – Pranburi Resort & Spa รีสอร์ทหรูริม หาดนาใต้ หาดส่วนตัวที่สงบงามในปราณบุรี ทุกห้องมี สระว่ายน้ำส่วนตัวหน้าห้อง ให้แช่น้ำฟังเสียงคลื่นแบบไม่ต้องออกไปไหน ไฮไลต์คือ สปาบนชั้นสามวิวทะเล ที่เปิดรับลมทะเลและแสงแดดอุ่น ๆ ช่วยรีเฟรชทั้งกายและใจ การตกแต่งที่นี่ผสมผสานความมินิมอลแบบไทย ๆ กับความหรูหราร่วมสมัย โล่ง โปร่ง ใช้สีเอิร์ธโทนที่เข้ากับทะเลและธรรมชาติรอบตัว
เย็นนี้เราออกไปจัดเต็มซีฟู้ดกันอีกรอบที่ ร้านอุดมโภชนา ร้านเก่าแก่ที่ขึ้นชื่อเรื่องซีฟู้ดสด ๆ ???? มีครบทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา สดแน่น รสชาติถึงใจ
ก่อนกลับมาพักผ่อน ใช้เวลายาว ๆ ที่ห้อง ฟังเสียงคลื่น และสัมผัสบรรยากาศสงบแบบ Slow Living จริงๆ
☀️ Day 2 : สัมผัสเช้า & ชีวิตท้องถิ่น
ตื่นเช้ามา 06.00 น. ออกไปเดิน–วิ่งริมชายหาด ได้เจอภาพประทับใจที่หาได้ยาก — ชาวประมงท้องถิ่น ที่ออกเรือไปจับหมึกตั้งแต่หัวค่ำ ทยอยกลับเข้าฝั่งตอนเช้า พร้อมปลาหมึกสด ๆ ที่เตรียมขายกันในตลาด ราคากิโลละเพียง 200 บาท เป็นช่วงเวลาที่ทำให้เราได้ใกล้ชิดวิถีชีวิตจริง ๆ ของคนที่นี่
กลับมาที่พักก็ได้ร่วมทำบุญ ใส่บาตรหน้าที่พัก พระสงฆ์เดินเรียงรายริมถนนเลียบหาด เป็นภาพเรียบง่ายแต่เปี่ยมด้วยคุณค่า จากนั้นเพลิดเพลินกับ อาหารเช้าริมสระว่ายน้ำวิวทะเล ที่ Aleenta อาหารมีให้เลือกหลากหลาย ทั้งเมนูสุขภาพ โยเกิร์ต ข้าวต้ม ออมเลต ไปจนถึงเมนูสั่งพิเศษ เสิร์ฟพร้อมบรรยากาศสุดผ่อนคลาย
สายหน่อยเราไปต่อที่ Grin Teahouse (กลิน ทีเฮ้าส์) คาเฟ่เล็ก ๆ ที่เน้นมัทฉะคุณภาพนำเข้าจากญี่ปุ่น ที่น่าสนใจคือเขายังใช้ วัตถุดิบท้องถิ่น เช่น สับปะรดและมะพร้าว มาประยุกต์เข้ากับเมนูเครื่องดื่ม สร้างรสชาติที่ไม่เหมือนใคร รสเข้มข้นแต่ละมุน เป็นการบอกเล่า “ความเป็นหัวหิน” ผ่านรสชาได้อย่างดี
บ่ายนี้เราเดินทางไปเยือน Monsoon Valley Vineyard ไร่องุ่นชื่อดังระดับประเทศ การันตีรางวัลมากมาย นอกจากชมวิวไร่องุ่นเขียวขจีแล้ว ยังได้เรียนรู้ขั้นตอนการผลิตไวน์อย่างใกล้ชิด และปิดท้ายด้วยการดื่มด่ำไวน์คุณภาพคู่กับอาหารในบรรยากาศกว้างใหญ่สุดสายตา
ช่วงเย็นเราเช็กอินที่ Cape Nidhra Hotel Hua Hin โรงแรมหรูติดทะเลหัวหิน ห้องพักกว้างขวาง มีทั้ง สระว่ายน้ำส่วนตัว และอ่างน้ำร้อนในห้อง ที่ออกแบบให้เปิดรับลมทะเลและแสงธรรมชาติ การตกแต่งเน้นความโมเดิร์นผสมทรอปิคัล ใช้ไม้และผ้าไทยในบางมุมเพื่อเชื่อมโยงกับความเป็นท้องถิ่น นอกจากนี้ยังมีห้องอาหารและบาร์บรรยากาศดี ให้เลือกนั่งทั้งในร่มและริมสระว่ายน้ำ
ก่อนมื้อค่ำเราไปรีเฟรชร่างกายที่ House of KOON ได้ลอง Ice Bath ที่นี่ แช่ได้ถึง 3 นาทีเต็ม! ความเย็นสุดขั้วทำให้รู้สึกเหมือนได้รีเซ็ตทั้งร่างกายและหัวใจ
ตามด้วย Sauna อบอุ่น ๆ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ เหมาะกับคนที่อยากฟื้นฟูตัวเองอย่างแท้จริง
ค่ำนี้เราปิดท้ายวันด้วยประสบการณ์ Fine Dining ที่ Duangkaew Cuisine – ครัวดวงแก้ว เมนูที่ยังติดอยู่ในใจคือ Snowfish Croquette กรอบนอกนุ่มใน, Truffle Mushroom Soup เสิร์ฟพร้อมครัวซองต์หอมกรุ่น, ต่อด้วย Australian Tenderloin จับคู่ไวน์แดงอย่างลงตัว, Baked Alaska Black Cod ที่นุ่มละมุน และของหวาน Panna Cotta ที่ปิดมื้อได้อย่างสมบูรณ์แบบ
???? Day 3 : เช้าสงบ & ความทรงจำท้องถิ่น
ตื่นแต่เช้าออกไปเดินเล่นริม หาดหัวหิน อีกครั้ง คราวนี้ได้เห็นพระสงฆ์ออกบิณฑบาตริมหาด เป็นภาพที่เรียบง่ายแต่งดงามมาก ๆ
กลับมาทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของ Cape Nidhra อาหารเช้าหลากหลาย ทั้งไทยและนานาชาติ เสิร์ฟพร้อมวิวทะเลและสระน้ำสวยงาม
ก่อนใช้เวลาช่วงสายแช่สระส่วนตัวในห้องพัก ปล่อยใจให้ช้า ๆ อย่างที่ตั้งใจไว้
และก่อนกลับเชียงใหม่ เราแวะที่ โรงงานผ้าโขมพัสตร์ หนึ่งในผ้าไทยที่มีชื่อเสียงยาวนาน ที่นี่เราได้เห็นการพิมพ์ลายผ้าด้วยมือแบบดั้งเดิม ได้ลองเวิร์กช็อปทำผ้าลายพิเศษของตัวเอง เป็นของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใครและเต็มไปด้วยเรื่องราว
???? Slow Living ที่หัวหิน–ปราณบุรี
ทริปนี้ทำให้เห็นว่า การเดินทางไม่จำเป็นต้องเร่งรีบเสมอไป แค่บินตรงจากเชียงใหม่เพียงชั่วโมงนิด ๆ ก็ได้มาสัมผัสทะเล หาดทราย ซีฟู้ด วิถีท้องถิ่น และการพักผ่อนแบบหรูหราในที่เดียว
หัวหิน–ปราณบุรีจึงไม่ใช่แค่จุดหมายปลายทาง แต่เป็น ประสบการณ์ ที่ผสมผสานความสงบ หรูหรา และวิถีชีวิตจริง ๆ ของผู้คน
