ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ที่ 1 และ 3 ของแต่ละเดือน บรรยากาศที่ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ (โอลด์ เชียงใหม่) คึกคักด้วยร้านรวงนับรวมราว 60 ร้านค้า ที่พ่อค้าแม่ขายมาปล่อยของที่มาจากฝีมือตัวเองล้วนๆ ตั้งแต่อาหารสูตรเด็ดเคล็ดลับครอบครัว งานคราฟต์ เสื้อผ้า ต้นไม้ ตลอดจนโชว์ลีลาเล่นดนตรีสด และสิ่งที่ทำให้ "เกษียณมาร์เก็ต" เป็นมากกว่าตลาดนัดธรรมดา คือเหล่าคนขายที่อยู่ในวัยเกษียณ อายุอานามดูแล้วน่าจะ 60 อัพ 
สวัสดีวันจันทร์
ขิม มนัสวัฑฒก์ ชุติมา ผู้จัดการโอลด์ เชียงใหม่ เล่าถึงที่มาที่ไปของเกษียณมาร์เก็ตให้เราฟังว่า "ตอนนี้สังคมของเราเป็นยุค silver age จำนวนของประชากรผู้สูงอายุแซงประชากรเด็กไปแล้ว และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราคิดว่ามันยังไม่มีพื้นที่สำหรับ silver age ในเชียงใหม่ ก็เลยมีการคุยกันในทีมงาน และเห็นว่าหลายบ้านคุณพ่อคุณแม่ชอบใช้ไลน์ในการติดต่อสื่อสาร มีห้องแชทคุยกัน อย่างคุณแม่ชอบส่งสติกเกอร์สวัสดีวันจันทร์มาทางไลน์ ก็เลยทำให้เห็นว่าพวกเค้าไม่ได้แก่ไปตามวัย เค้าพยายามปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย และยังมีสังคมของเค้า มีความสนใจ มีงานอดิเรก แต่ละคนมีไอดอลเป็นคนวัยใกล้ๆ กัน เค้าก็จะแชร์ แลกเปลี่ยนข้อมูล ส่งไลน์หากัน เป็นจุดเริ่มต้นว่าเราน่าจะเปิดพื้นที่ในโอลด์ เชียงใหม่ ให้กลุ่มวัยนี้ได้มาแสดงออกถึงความสนใจของกันและกัน" 
จากจุดเริ่มต้นนี้ ภาพจำที่คนวัยหลังเกษียณต้องอยู่เฝ้าบ้านให้ลูกหลานคอยดูแล ถูกลบด้วยภาพของกลุ่มคุณลุงคุณป้าที่เกษียณมาเก็ต ที่กำลังยืนขายของและพูดคุยกับลูกค้าที่แวะเวียนมาอย่างคล่องแคล่ว ซึ่งมีทั้งนักเคมีที่ผันตัวเองมาทำงานคราฟต์หลังเกษียณ สถาปนิกที่ตอนนี้รับบทเป็นเป็นบาริสต้ายืนดริปกาแฟ หรือว่าอดีตพยาบาลที่จับพลัดจับผลูมาหัดทำเบเกอรี่ เกษียณมาร์เก็ตจึงเป็นเหมือน 60s playground สนามที่ให้คนสูงวัยได้มาแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ 
60 กำลังแจ๋ว
"เกณฑ์การคัดเลือกร้านของเรา ผู้ขายต้องเป็นวัยเกษียณ และสินค้าจะต้องเป็นของที่ทำเอง เราค่อนข้างให้ความสำคัญกับการแสดงความสามารถของตัวผู้ขาย และเราก็พยายามคัดสินค้าไม่ให้ซ้ำกันภายในตลาด
พื้นที่ของเราสามารถรองรับได้มากถึง 80 บูธ หมุนเวียนกันไป มีทั้งบูธประจำและไม่ประจำผสมกันอยู่บ้าง มีทั้งหมวดอาหาร งานคราฟต์ เครื่องใช้ไม้สอย และเสื้อผ้า ซึ่งของที่ขายส่วนใหญ่มาจากกิจกรรมงานอดิเรกที่เกิดขึ้นหลังจากเกษียณแล้ว ตลาดเราไม่ได้เป็นตลาดที่ต้องการการแข่งขันด้วยความที่พ่อค้าแม่ค้าเป็นมือใหม่ และตอนนี้เรามีการคัดเลือกร้านอยู่เรื่อยๆ ถ้าเกิดว่าสนใจมาเปิดร้านก็เข้ามาติดต่อทางเราได้" ขิมอธิบายคร่าวๆ ถึงเกณฑ์การคัดเลือกร้าน 
เป็นมากกว่าตลาดนัด หากยังเป็นพื้นที่สร้างสุขของคนรุ่นใหญ่
จากความตั้งใจที่อยากให้โอลด์ เชียงใหม่ เป็นพื้นที่ให้คนสูงวัยได้มาขายของ ทว่าที่นี่ยังเปิดประตูให้เหล่าวัยเกษียณทั้งเป็นคนขายและคนมาเดินตลาดได้เจอกับสังคม ได้พบปะ แลกเปลี่ยนเรื่องราวระหว่างกันและกัน ทำให้คนวัยเกษียณเกิดความรู้สึกอยากที่จะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สดใส ได้สนุก ได้เจอเพื่อนฝูง และมีคุณค่าอีกครั้ง
"สิ่งที่เราเห็นหลังจากที่เปิดตลาด คือผู้สูงอายุหลายคนไม่ได้อยู่บ้านเฉยๆ หลายคนได้มีพื้นที่ที่ทำให้เค้าสนใจมาเผยแพร่ มาแชร์ให้กับคนอื่นๆ ได้ทุกวัย เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการเชื่อมต่อระหว่างวัยได้ ทำให้เค้ารู้สึกเกิดความภูมิใจในตัวเอง ไม่ได้เป็นคนวัยเกษียณที่อยู่แต่ที่บ้าน และบางคนก็ได้มาเจอเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอตั้งแต่สมัยประถม ก็เหมือนกับได้สร้างคอมมูนิตี้ต่อยอดไปอีก แล้วก็เกิดเป็นการคอลแล็ปกันระหว่างสินค้าในตลาดเอง เราเป็นแค่พื้นที่ให้เค้า แต่ทุกอย่างเกิดตามมาเอง ทีมงานทุกคนรู้สึกดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการต่อยอดของเค้า เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของเค้ามีคุณค่ามากขึ้น มากกว่าจะมองว่าเค้าเป็นเพียงแค่สูงวัย" ขิมกล่าวทิ้งท้าย 
ตามไปสัมผัสบรรยากาศที่อบอวลไปด้วยความอบอุ่นน่ารัก แวะอุดหนุนสินค้าจากฝีมือคนรุ่นใหญ่ ทั้งรับพลัง เติมไฟในตัวจากคุณลุงคุณป้าที่เกษียณมาร์เก็ต ทุกเสาร์-อาทิตย์ที่ 1 และ 3 ของเดือน ตั้งแต่เวลา 08:00-14:00 น. ที่ศูนย์วัฒนธรรมเชียงใหม่ (โอลด์ เชียงใหม่)
