ซ่อนตัวอย่างเงียบสงบท่ามกลางแมกไม้เขียวขจี บนเนื้อที่ 85 ตารางวา ตรงหัวมุมถนนในย่านแม่ริม บ้านงามแสงเดือนเป็นที่ที่คุณจิ๋ม พะยอม ยาวิราช ผู้เป็นเจ้าของลงไม้ลงมือสร้างขึ้น ด้วยความตั้งใจให้ที่นี่เป็นที่พักอาศัย ได้มาใช้ชีวิตเงียบๆ ในช่วงบั้นปลายอยู่ที่บ้านหลังนี้ งามแสงเดือน เรือนไม้เก่าแก่ที่สว่างสไวภายใต้แสงจันทร์ในทุกค่ำคืน
"ตอนที่จะซื้อที่ดิน เราดูทิศทางพระอาทิตย์ขึ้น ดูว่ากลางคืนพระจันทร์จะขึ้นตรงไหน และพื้นที่ตรงนี้มองเห็นดวงจันทร์ได้ชัดเจน" คุณจิ๋มเล่าให้ฟังถึงที่มาของชื่อเรือนไม้หลังนี้
"สำหรับตัวบ้านเราเป็นคนออกแบบ ใช้ไม้ที่รื้อมาจากบ้านหลังเดิมเอามาปรุงใหม่ เพื่อให้ตรงกับความต้องการ ถ้าเป็นอายุของตัวบ้านจริงๆ ตอนนี้ก็อายุประมาณ 48 ปี"
"เราอยากให้เป็นบ้านที่อยู่แล้วเย็นสบาย รักษาภูมิปัญญาดั้งเดิมไว้ ใช้รั้วไม้ไผ่สานขัดแตะ ซึ่งกลั่นกรองฝุ่นละอองได้ดี ปลูกต้นไม้ไว้โดยรอบ ปูพื้นด้วยอิฐมอญปั้นมือ พื้นที่ข้างในห่อด้วยต้นไม้อีกชั้น ที่นี่ก็เลยเย็นตลอดเวลา" Back to the basic กลับสู่วิถีที่เรียบง่าย ไม่ปรุงแต่งภายในเนื้อที่ 85 ตารางวา ประกอบไปด้วยเรือนไม้บ้านงามแสงเดือน ที่แบ่งส่วนของชานบ้านให้เป็นพื้นที่สำหรับตระเตรียมขนมและเครื่องดื่ม ฝั่งตรงข้ามเป็นศาลาแบบเปิดโล่ง สำหรับนั่งพักผ่อน นั่งคุยกันได้อย่างสบายๆ ถัดไปจากศาลาเป็นบ้านไม้ขนาดกะทัดรัดใต้ร่มเงาของต้นมะขาม ประดับประดาด้วยลูกปัดหลากสี เสื้อผ้า กระเป๋า และเครื่องประดับแฮนด์เมด เป็นมุมที่คุณจิ๋มมักใช้เวลาไปกับการร้อยลูกปัดและเย็บปักถักร้อย ด้านในสุดเป็นโชว์รูมเล็กๆ ที่จัดแสดงข้าวของแฮนด์เมดจากฝีมือคุณจิ๋ม ให้ผู้มาเยือนได้เข้ามาแวะชม และเลือกซื้อติดไม้ติดมือกลับไป ในบริเวณบ้านจึงประกอบด้วยเรือนใหญ่น้อยผสมผสานกันถึง 4 หลัง
"เสื้อผ้าและเครื่องประดับเราจะทำแค่ไม่กี่ชิ้น แต่ก็มีคนเข้ามาเยี่ยมชมอยู่เรื่อยๆ ก็เลยเกิดเป็นร้านกาแฟขึ้นมา เราก็ทำให้เหมาะสมกับกำลังที่มีอยู่ เป็นดริปคอฟฟี่ สโลว์บาร์ ลูกค้าดูแลตัวเองเป็นส่วนใหญ่ ให้มีความรู้สึกว่าเวลามาที่นี่ เหมือนอยู่บ้านของตัวเอง ให้ลูกค้าใช้พื้นที่ในบ้านได้ เปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้ชม เหมือนกับเป็นมิวเซียมเล็กๆ เป็นวิถีชีวิตที่เราไม่ได้ปรุงแต่งขึ้นมา เป็นธรรมชาติของตัวเราเอง ขนมกลีบลำดวน ชีสเค้กหน้าไหม้ ทีรามิสุ เราก็ทำเอง เครื่องดื่มของเราจะไม่เยอะ ส่วนใหญ่จะเน้นสุขภาพ อย่างคอมบูชะ ขิงน้ำผึ้งมะนาว หรือว่าชาอัสสัม เราก็ทำขึ้นมาจากสูตรของเรา"
บางครั้งบางคราวบ้านงามแสงเดือน ยังเป็นสถานที่จัดงานเล็กๆ ที่มีศิลปินมาจัดแสดง และรองรับคนกลุ่มเล็กๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเห็นข้าวของเครื่องใช้ เช่น แก้วน้ำ จานชามวางเรียงรายอยู่ตามมุมต่างๆ ทั้งยังมีการจัด Chef Table สำหรับมื้อค่ำ โดยอาหารที่คุณจิ๋มได้ลงมือทำนั้นจะเป็นอาหารเหนือแบบดั้งเดิม ใช้ผักและผลไม้ตามฤดูกาลที่หาได้ในท้องถิ่น อย่างถ้าเกิดว่าเป็นเมนูแกงแค ผักต้องครบ 16 ชนิด
สูงสุดกลับสู่สามัญ กลับสู่ความธรรมดา
ในยุคหนึ่งคุณจิ๋มได้ชื่อว่าเป็น Queen of Beads โดยเริ่มจากการที่เธอเปิดร้านลูกปัดอยู่ที่ย่านนิมมานเหมินท์ ก่อนที่จะเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่ที่หลวงพระบาง 3 ปี ทำงานจัดร้าน จัดโรงแรม และด้วยความรักในการเย็บปักถักร้อย ก็ได้ซื้อผ้าชนเผ่าของที่นั่นเก็บไว้ เมื่อกลับมายังถิ่นฐาน เธอก็เริ่มเอาผ้ามาทำของตกแต่งบ้าน ทำหมอน ทำเครื่องนอนในแบบฉบับที่เป็นตัวเอง
"ประกอบกับช่วงที่อยู่กับสามีเป็นช่วงเวลาที่ได้เดินทางเยอะ เพราะสามีเป็นนักธุรกิจ ก็ได้พบเห็นอะไรมาในระดับหนึ่ง โลกกว้างขึ้น ได้เห็นในสิ่งที่หลายคนไม่ได้เห็น แต่เราก็จดจำ ใช้เอามาประกอบอาชีพแล้วเอามาเลี้ยงชีพ" คุณจิ๋มกล่าวเสริม
"แต่ทุกวันนี้ เราทำงาน simple มาก ร้อยลูกปัดแบบเรียบๆ แต่ตัวเม็ดหินและวัสดุต้องคุณภาพและคัดเกรดมาอย่างดี"
ไม่ว่าจะด้วยรสนิยม พรสวรรค์ หรือว่าความช่างสังเกต อาจกล่าวได้ว่าทุกรายละเอียดภายในบ้านงามแสงเดือนคือส่วนผสมที่ลงตัว เป็นความลงตัวของรสนิยม, ความเก่าแก่ และความเป็นล้านนาที่พอดิบพอดี สะท้อนถึงตัวตนของคุณจิ๋มผู้เป็นเจ้าของที่ทำบ้านตามวีถีทางที่ชอบ
"พอมาถึงวันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องเงินทั้งหมด เรามีของอยู่ในตัวเยอะ เราไม่คนไม่หวงวิชาความรู้ อยากจะแชร์ให้กับคนที่ใคร่อยากจะรู้ ใคร่อยากจะได้ไปเป็นของตัวเอง เราก็ยินดีจะถ่ายทอดให้ ทั้งเรื่องการสร้างบ้าน อย่างตอนนี้เรามีเวิร์คช็อป รับสอนร้อยลูกปัด ไม่คิดค่าสอน มีแค่ค่าวัสดุ จะเรียนกัน 3 ชั่วโมง แค่นัดเวลากันก่อน"
สำหรับช่วงหน้าหนาว ที่บ้านงามแสงเดือนจะมีมุมให้นั่งจิบชาอุ่นๆ โดยจะมีกาน้ำร้อนที่ต้มบนเตาถ่าน และชาหอมๆ ที่เตรียมไว้ให้ผู้มาเยือน
หยุดวันอาทิตย์ 9.00 น. - 16.00 น.
โทร. 087 181 2954